คลังเก็บหมวดหมู่: สุขภาพ

ข่าวสุขภาพ

สาเหตุของ “ตะคริวที่เท้า” ยิ่งนั่งนานก็ยิ่งเป็น กับวิธีช่วยลดอาการให้หายได้จริง

ตะคริวที่เท้า เป็นอาการทางสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศและทุกวัย และสามารถเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้

ชนิดที่ไม่เลือกทั้งเวลาและสถานที่ ทั้งตอนตื่นนอน ขณะที่กำลังนอน หรือแม้แต่ตอนที่กำลังนั่งอึอยู่ในห้องน้ำก็ตาม อาการตะคริวที่เท้า เกิดจากอะไร และจะรับมืออย่างไร ไปตามดูกันได้เลยในบทความนี้จาก Hello คุณหมอ

ข่าวสุขภาพ

  • สาเหตุของ ตะคริวที่เท้า
    อาการตะคริวที่เท้า เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ คุณอาจเป็นตะคริวได้จากเหตุปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ดังต่อไปนี้
  • ภาวะขาดน้ำ
    หากในแต่ละวันมีการดื่มน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายจะมีอาการขาดน้ำ ส่งผลให้เกลือแร่ของเลือด (electrolytes) โพแทสเซียม โซเดียม และแมกนีเซียมในร่างกายไม่สมดุล โดยเฉพาะในกล้ามเนื้อ และถ้าหากกล้ามเนื้อเกิดความไม่สมดุล จะทำให้กล้ามเนื้อที่นิ้วเท้าและฝ่าเท้าเกิดการหดตัวจนเกิด อาการตะคริวที่เท้าขึ้นมา
  • ไม่ค่อยออกกำลังกาย
    การไม่ออกกำลังกายนอกจากจะทำให้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เสี่ยงที่จะเป็นโรคภัยไข้เจ็บชนิดรุนแรงและเรื้อรังแล้ว ยังสามารถส่งผลให้เกิด อาการตะคริวที่เท้า ได้อีกด้วย เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อและระบบประสาทเกิดความสมดุล ทำให้กล้ามเนื้อไม่หดตัว ลดโอกาสในการเป็นตะคริว
  • สวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม
    ในแต่ละวันเราใช้เท้าในการก้าวเดินไปยังที่ต่างๆ หลายร้อยหลายพันก้าว การเลือกรองเท้าที่มีรูปแบบการดีไซน์ที่เหมาะสม จะช่วยในการกระจายน้ำหนักตัวได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เช่น คับไป หรือหลวมไป จะส่งผลให้เป็นตะคริวได้
  • อาการทางสุขภาพ
    ผู้ป่วยที่มีอาการทางสุขภาพบางประเภท อาจมีผลทำให้เกิด อาการตะคริวที่เท้า ได้ เช่น ผู้ป่วยด้วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple sclerosis) โรคพาร์กินสัน หรือโรคเบาหวาน เพราะอาการทางสุขภาพดังกล่าวจะทำให้ระบบประสาทมีการเปลี่ยนแปลง อาจเกิดอาการกระตุก และทำให้เป็นตะคริว
  • อายุ
    อายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นตะคริวมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อก็จะค่อยๆ ลดประสิทธิภาพในการทำงานลง ปริมาณน้ำในกล้ามเนื้อก็น้อยลง จนอาจทำให้กล้ามเนื้อที่บริเวณเท้าและนิ้วเท้าเกิดการเกร็งตัว จนเป็นอาการตะคริวที่เท้าในที่สุด
  • การตั้งครรภ์
    แน่นอนว่าปัญหานี้พบได้เฉพาะเพศหญิง แต่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญยังไม่มีการค้นพบถึงสามารถที่แท้จริงว่าทำไมผู้ที่ตั้งท้องจึงมี อาการตะคริวที่เท้า แต่สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะน้ำหนักตัวของทารกที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ภาวะขาดน้ำ ภาวะขาดสารอาหาร เช่น โพแทสเซียม หรือแมกนีเซียม
  • หยุดตะคริวบริเวณขาและเท้าอย่างไรได้บ้าง
    อาการตะคริวที่เท้า หรือที่ขา สามารถที่จะป้องกันได้ง่ายๆ เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางประการ ก็จะช่วยลดโอกาสในการเป็นตะคริว ซึ่งทุกคนสามารถที่จะทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้
  • ดื่มน้ำให้มากๆ
    การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ช่วยลดโอกาสในการเกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มี อาการตะคริวที่เท้า
  • สวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมกับเท้า
    เลือกใส่รองเท้าที่เหมาะกับรูปเท้า เลือกให้พอดี ไม่คับ และไม่หลวมจนเกินไป เพื่อที่รองเท้าจะได้กระจายน้ำหนักตัวออกไปอย่างเหมาะสม สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
    การออกกำลังกายแน่นอนว่าทำให้ร่างกายแข็งแรงและยังช่วยลด อาการตะคริวที่เท้าได้อีกด้วย หมั่นออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อต่างๆ ทั้งแขนและขา เพื่อให้ทั้งระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาทเกิดความสมดุลมากขึ้น
  • กินอาหารให้หลากหลาย
    การขาดสารอาหารบางประเภท ก่อให้เกิดตะคริวได้ ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย ครบทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์
  • ยืดหยุ่นร่างกายอยู่เสมอ
    หากมี อาการตะคริวที่เท้า ในตอนกลางคืน ก่อนนอนควรมีการยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว และสามารถผ่อนคลายได้ดีขณะนอนหลับ
  • เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ
    โรคภัยไข้เจ็บบางประเภทมีส่วนที่ทำให้เป็นตะคริวที่เท้า หากคุณมีอาการทางสุขภาพ เช่น โรคพาร์กินสัน โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple sclerosis) หรือโรคเบาหวาน ควรไปพบคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำหากมี อาการตะคริวที่เท้า และสงสัยว่าอาจมาจากโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่

นอกจากนี้ หากคุณเป็นตะคริวที่เท้าบ่อยจนเกินไป รวมถึงมีอาการบวม แดง ที่เท้าหลังจากเป็นตะคริว ควรไปพบคุณหมอโดยทันที ข่าวสุขภาพเพิ่มเติม>>> “มันฝรั่งทอด” อาหารสุดอันตรายที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอยากให้หยุดกิน

เมนูอาหารไทย

“มันฝรั่งทอด” อาหารสุดอันตรายที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอยากให้หยุดกิน

มันฝรั่งทอดอาหารสุดอันตรายที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอยากให้หยุดกิน เหตุมีคุณค่าทางโภชนาการน้อย ทำลายระบบเผาผลาญ

หากเราต้องการมีหน้าท้องแบนราบ แน่นอนว่าหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ควรลงมือทำคือการควบคุมอาหาร แม้ว่าจะมีอาหารมากมายที่สามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญให้เราสามารถลดไขมันส่วนเกินได้เร็วขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำกัดการบริโภคอาหารแปรรูปและควรระวังอาหารที่มีรสเค็มจัดเป็นพิเศษด้วย เพราะการทานอาหารที่มีโซเดียมสูง อาจทำให้น้ำหนักของเราเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เมนูอาหารไทย

และอาหารต้องห้ามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้หลีกเลี่ยงโดยเร็วที่สุดสำหรับใครที่กำลังพยายามลดน้ำหนัก คือ “มันฝรั่งทอดกรอบ”

“มันฝรั่งทอดกรอบ” อาจเป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน เพราะรสชาติที่อร่อยจนวางไม่ลง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเปิดเผยว่า นี่เป็นศัตรูตัวร้ายของเรา โดยเฉพาะคนที่กำลังพยายามลดไขมันหน้าท้อง

ส่วนหนึ่งอาจเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่า มันฝรั่งทอดกรอบถือเป็นขนมขบเคี้ยวที่กรุบกรอบและมีรสเค็ม ซึ่งผ่านการแปรรูปมาอย่างดี นั่นหมายความว่าแทบจะไม่มีคุณค่าทางโภชนาการหลงเหลืออยู่เลย ดังนั้นเมื่อเรากินมันฝรั่งทอดกรอบถุงใหญ่ ๆ ตลอดทั้งวัน เราจะได้รับแคลอรีเพิ่มขึ้น โดยไม่ได้รับไฟเบอร์หรือโปรตีนใด ๆ เลย ส่งผลให้เราไม่รู้สึกอิ่มและอาจนำไปสู่ความอยากที่เพิ่มขึ้น จนกินเยอะมากเกินควร

การทานคาร์โบไฮเดรตแปรรูปในลักษณะนี้ นับว่าไม่มีประโยชน์ในทางโภชนาการ เพราะปราศจากวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และสารต้านการอักเสบ ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายให้กับระบบเผาผลาญของเราและทำให้น้ำหนักลดลงได้ยากมาก เนื่องจากอินซูลินพุ่งสูงขึ้นในระดับ IGF-1 ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกการอักเสบ และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังและการเก็บสะสมของไขมันในร่างกาย

โซเดียมสูง สาเหตุหลักของไขมันหน้าท้อง

นอกจากนี้มันฝรั่งทอดยังมีโซเดียมสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไขมันหน้าท้อง เพราะเกลือทำให้ร่างกายของเรากักเก็บน้ำ จึงทำให้ตัวเราดูป่องหรืออ้วนขึ้น

อย่างไรก็ตามหากเราอยากทานอะไรที่กรุบกรอบและใส่เกลือเล็กน้อยจริง ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้ซื้อ “ป๊อปคอร์น” มาแทน เพราะข้าวโพดคั่วเป็นธัญพืชเต็มเมล็ด จึงเป็นแหล่งใยอาหารชั้นดีที่ช่วยให้เรารู้สึกอิ่มนาน ที่สำคัญยังเต็มไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ